ทำไมคนญี่ปุ่นต้องปาถั่วใส่ยักษ์

ทำไมคนญี่ปุ่นต้องปาถั่วใส่ยักษ์

- in Japan
864

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ OJSAT กลับมาเจอกับอายอีกแล้วนะคะ วันนี้อายก็มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาแนะนำอีกเช่นเคยค่ะ

มีนักเรียน Inbox ฝากคำถามเรื่องนี้มาจากทางแอดมินเพจของโรงเรียนด้วย อายจึงขอหยิบยกเรื่องนี้มาแชร์กันนะคะ

เมื่อพูดถึงเดือนกุมภาพันธ์ หลายๆคนอาจจะนึกถึงเดือนที่อบอวลไปด้วยความสุขของการแสดงความรักต่อคนรอบข้าง นั่นก็คือวันวาเลนไทน์ใช่ไหมคะ แต่นอกจากวันวาเลนไทน์แล้วเดือนกุมภาพันธ์ยังมีอีกหนึ่งวันที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือวันที่ 2 หรือ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันเซซึบุง (節分 สามทุ่ม) หรือวันก่อนที่จะเข้าฤดูใบไม้ผลินั่นเองค่ะ วันนี้มีที่มาอย่างไรและคนญี่ปุ่นมีการปฏิบัติในวันนี้อย่างไร อายจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ

อย่างที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหมด 4 ฤดู นั่นคือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ซึ่งคนสมัยก่อนได้มีการกำหนดวันของการเริ่มฤดูกาลใหม่ไว้คือ ฤดูใบไม้ผลิจะเริ่มประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ฤดูร้อนเริ่มวันที่ 6 พฤษภาคม ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มวันที่ 7 สิงหาคม และฤดูหนาวจะเริ่มประมาณวันที่ 7 พฤศจิกายน

ซึ่งหนึ่งวันก่อนที่จะเข้าฤดูกาลใหม่ก็คือ วันเซซึบุง นั่นเอง จึงทำให้ใน 1 ปีมีวันเซซึบุงทั้งหมด 4 ครั้ง แต่เพราะว่าฤดูใบไม้ผลิคือฤดูที่มีการเริ่มใหม่ของธรรมชาติ ดอกไม้ต่างๆเริ่มผลิบาน มีอากาศที่อบอุ่น เป็นฤดูแห่งการเพาะปลูก ฤดูใบไม้ผลิจึงเปรียบเสมือนฤดูที่มีการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ ทำให้คนสมัยก่อนมีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ จนทำให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิเป็นเหมือนวันปีใหม่ของคนสมัยก่อน เลยทำให้เมื่อพูดถึงวันเซซึบุงจึงทำให้นึกถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิหรือประมาณวันที่ 2 หรือ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์นั่นเองค่ะ

ส่วนการปฏิบัติของคนญี่ปุ่นในวันเซซึบุงที่มีให้เห็นได้ทั่วไปจะมีอยู่ 2 อย่าง คือ การโปรยเมล็ดถั่วเหลืองเพื่อไล่ สิ่งชั่วร้าย (豆まき=mamemaki) และการทานเอะโฮมะคิ (恵方巻き=ehoumaki) ค่ะ

ความเชื่อเรื่องการโปรยเมล็ดถั่วนี้มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีจะเข้ามาได้ง่ายในช่วงการเปลี่ยนฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือช่วงที่กำลังจะขึ้นปีใหม่ จึงทำให้มีการปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและสิ่งไม่ดีต่างๆในวันนี้เพื่อต้อนรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในวันปีใหม่

โดยมักจะมีการจัดกิจกรรมที่มีผู้ใหญ่แต่งตัวเลียนแบบปีศาจ คือใส่หน้ากากสีแดงที่มีหน้าของปีศาจที่ดุร้าย และเด็กๆก็จะถือเมล็ดถั่วเหลืองแล้วเหวี่ยงไปที่ปีศาจเหมือนเป็นการไล่สิ่งไม่ดีหรือปีศาจออกไปจากตัว พร้อมกับพูดว่า「鬼は外、福は内=oni wa soto fuku ha uchi」ที่แปลว่าปีศาจอยู่ภายนอก ความมั่งคั่งอยู่ภายใน ซึ่งเมล็ดถั่วที่ใช้ก็ไม่ใช่เมล็ดถั่วธรรมดานะคะ แต่ต้องเป็นเมล็ดถั่วเหลืองที่ผ่านการคั่วมาแล้วเท่านั้น เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าในบรรดาถั่วทั้งหมด ถั่วเหลืองเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณที่ดีและบริสุทธิ์ จึงทำให้ถั่วเหลืองมีฤทธิ์ไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไปได้มากกว่าถั่วชนิดอื่นๆ ถั่วเหลืองนี้มีชื่อเรียกว่า ฟุกุมาเมะ (福豆) หรือที่แปลว่า ถั่วแห่งความมั่งคั่ง นั่นเอง

นอกจากกิจกรรมสำหรับเด็กแล้ว คนญี่ปุ่นทั่วไปก็จะมีการโปรยถั่วเหลืองภายในบ้านและภายนอกหน้าต่างและประตูบ้านด้วยค่ะ

การทานเอะโฮมะคิก็ถือว่าเป็นการเรียกสิ่งที่ดีเข้าตัวเช่นกัน โดยจะต้องทานเอะโฮมะคิพร้อมกับหันหน้าไปทางทิศที่ในปีนั้นมีความเชื่อว่าเป็นทิศแห่งความมั่งคั่งหรือที่เรียกว่า ทิศเอะโฮ นั่นเอง

โดยตอนที่ทานเอะโฮมะคิจะต้องนิ่งเงียบ ขอพร หลับตา และทานเอะโฮมะคิจนหมดชิ้นโดยไม่มีการตัด คนญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าตัดเอะโฮมะคิจะเหมือนเป็นการตัดความสัมพันธ์ จึงทำให้อะโฮมะคิจะมีความยาวถึง 8 – 10 ซม.เลยแหละค่ะ

หลายคนอาจจะเริ่มงงแล้วใช่ไหมคะว่าเอะโฮมะคิมีหน้าตาเป็นอย่างไร เอะโฮมะคิมีหน้าตาคล้ายกับซูชิโรลที่เรารู้จักกันเลย แตกต่างกันตรงที่ไส้ของเอะโฮมะคิจะประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 7 ชนิดตามจำนวนเทพแห่งความมั่งคั่งทั้ง 7 ของญี่ปุ่น ซึ่งไส้ของเอะโฮมะคิไม่ได้ถูกกำหนดไว้ตายตัวว่าจะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ไส้ที่พบเห็นได้ส่วนมากก็จะคล้ายคลึงกับใส้ของซูชิโรล แค่มีความยาวมากกว่าซูชิโรลเท่านั้นค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับความรู้เกี่ยวกับวันเซซึบุงของญี่ปุ่นที่อายนำมาฝากในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆคงชอบและได้นำไปใช้กันบ้างนะคะ

日本文化やニュース、もっと知りたいことがありましたら是非コメントくださいね!


สนใจสมัครเรียน หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โรงเรียนสอนภาษา สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์

สาขาพหลโยธิน 📞 02-357-1241-5

สาขาจามจุรี 📞 02-160-5073-4

You may also like

คอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น เดือนธันวาคม 2567

🌴คอร์สเร