สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ OJSAT! กลับมาพบกับอายและเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งนะคะ
ครั้งก่อน อายได้นำเสนอวัฒนธรรมการปฏิบัติของคนญี่ปุ่น ที่เรียกว่า โมริชิโอะ (盛り塩) ไป ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆคนไหนลองเอาไปทำตามบ้างมั้ยเอ่ย
วันนี้อายจะขอมาอัพเดทข่าวสารบ้านเมืองของญี่ปุ่น เพื่อเพื่อนๆจะได้มีข้อมูลใหม่ๆเอาไว้เผื่อได้ไปคุยกับคนญี่ปุ่น จะได้ไม่ตกเทรนด์
ข่าวที่อายจะนำมาแนะนำวันนี้ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ไทยหรือญี่ปุ่น ถ้าเปิดทีวีมาก็จะต้องเห็นข่าวนี้ทุกวัน
… ใช่แล้วค่ะ ข่าวที่จะนำเสนอวันนี้ก็คือข่าวเกี่ยวกับโควิดนั่นเอง
เพื่อนๆคงจะพอทราบกันบ้างแล้วว่ายอดจำนวนผู้ป่วยโควิดที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นยังอยู่ในอัตราที่สูงมาก ในโตเกียวหลังจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเป็นโควิดเพิ่มขึ้นเฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 1,000 คนเลยละค่ะ
ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในบางจังหวัดตอนนี้ แต่ยอดจำนวนผู้ป่วยนั้นก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้มีการประกาศขอความร่วมมือเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีมาตรการหลายๆอย่างมาอย่างต่อเนื่อง เช่น
มาตรการซังมิตซึ (三密)
มาตรการที่รณรงค์ให้คนหลีกเลี่ยง 3 อย่าง
① มิปเป (密閉)
สถานที่ปิด,
อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
② มิชชู (密集)
สถานที่แออัด, คนเยอะ
③ มิสเซซึ (密接)
การสัมผัสอย่างใกล้ชิด
นอกจากมาตรการซังมิตซึนี้แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นยังรณรงค์ให้คนทำงานที่บ้านกันมากขึ้นด้วย โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องลดจำนวนคนที่เดินทางไปทำงานให้ได้ 70% และยังได้ขอความร่วมมือจากร้านค้าให้ปิดร้านภายในสองทุ่ม ซึ่งทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่หันมาทำอาหารใส่ห่อเพื่อนำกลับบ้านและเดลิเวอรี่มากขึ้น
ซึ่งก่อนหน้าที่โควิดจะระบาด ถ้าไม่ใช่อาหารกล่องตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหารจำพวกเบนโตะ ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่มีบริการใส่ห่อ เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าการห่ออาหารกลับไปทานที่บ้านนั้นจะทำให้คุณภาพสินค้าอาหารลดลง หรืออาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ หากลูกค้าที่ซื้อไปนำไปปรุงหรืออุ่นด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะร้านราเมน ซึ่งพอนำกลับไปบ้านแล้ว เส้นก็จะเปลี่ยนรูปไปไม่เหมือนตอนลวกเสร็จใหม่ๆ ซึ่งก่อนที่โควิดจะระบาดอายยังไม่เคยเห็นร้านราเมนร้านไหนมีบริการห่อกลับบ้านเลยค่ะ
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องอาหารแล้ว ขอแนะนำมาตรการในร้านอาหารที่เชื่อว่าถ้าคนญี่ปุ่นให้ความร่วมมือกันทุกคนคงทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยโควิดลดลงอย่างแน่นอน นั่นก็คือ มาตรการ มาสึกุไกโชะคุ (マスク会食) ซึ่งออกโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่น
มาตรการ
มาสึกุไกโชะคุ
(マスク会食)
โดยมาตรการนี้หากใครต้องการพูดคุยระหว่างทานอาหารต้องใส่หน้ากากอนามัย และจะสามารถถอดได้แค่เฉพาะตอนที่เอาอาหารเข้าปากเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะพูดในขณะทานอาหาร ก็ต้องถอดหน้ากากอนามัยเข้าๆออกๆตลอดเวลาจนกว่าจะทานเสร็จนั่นเอง
อีกวิธีหนึ่งเกิดขึ้นมาจากร้านอาหารในจังหวัดฟุกุโอกะซึ่งทางร้านอาหาร ได้ทำป้ายขอความร่วมมือห้ามพูดระหว่างทาน ซึ่งเรียกว่า โมคุโชะคุ (黙食)
โมคุโชะคุ (黙食)
คันจิคำว่า โมคุ แปลว่า เงียบ ส่วนคำว่า โชะคุ แปลว่า ทาน ซึ่งพอนำคันจิสองตัวมารวมกัน ก็เลยแปลว่าให้ทานแบบเงียบๆนั่นเองค่ะ
สองคำนี้เป็นคำศัพท์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ในช่วงโควิดและกำลังเป็นที่พูดถึงและถกเถียงกันอย่างมากบน SNS ถึงความเป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ บางคนก็บอกว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำและสามารถทำได้ ส่วนบางคนก็บอกว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและเหมือนถูกบังคับมากเกินไป
แล้วถ้าเป็นเพื่อนๆหละคะ เพื่อนๆคิดว่า มาสึกุไกโชะคุ กับ โมคุโชะคุ ทำได้จริงมั้ย
แล้วเพื่อนๆจะรู้สึกอย่างไรถ้าไปทานอาหารนอกบ้านแล้วเจอร้านอาหารที่ขอความร่วมมือแบบนี้ คอมเมนต์ความรู้สึกกันมาได้ข้างล่าง โพสต์ในเพจ เลยนะคะ แล้วอย่าลืมลองทำตามอย่างที่รณรงค์ขอความร่วมมือเพื่อโควิดจะได้หมดไปนะคะ
新型コロナウイルスが広がらないようにする為、手洗い、消毒、マスク着用など基本的な感染症対策を徹底しましょう!
🍜 🍣 🍱 🍛 🍙 🍜 🍣 🍱 🍛 🍙 🍜 🍣 🍱 🍛 🍙 🍜 🍣 🍱 🍛 🍙
OJSAT เรียนที่ไทย เหมือนได้ไปญี่ปุ่น
สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่น คลิกอ่านรายละเอียดเลย! 👇👇👇
สนใจสมัครเรียน หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โรงเรียนสอนภาษา สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์
สาขาพหลโยธิน 02-357-1241-5
สาขาจามจุรี 02-160-5073-4